menu
logopatek philippe certificate

เมื่อเวลามาบรรจบกับศิลปะ: Hublot และ Daniel Arsham การปฏิวัตินวัตกรรมนาฬิกา

28 Oct 2025 · 2 min read

การผสมผสานระหว่างศิลปะร่วมสมัยและการผลิตนาฬิกาชั้นสูงได้นำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานที่ทรงคุณค่าและน่าประทับใจ โดย Hublot ร่วมกับ Daniel Arsham เปิดตัว MP-17 MECA-10 Arsham Splash Titanium Sapphire ณ ประเทศสิงคโปร์ นาฬิกาเรือนนี้ก้าวข้ามกรอบเครื่องบอกเวลาดั้งเดิม ซึ่งได้นำแนวคิด “โบราณคดีสมมติ” ของศิลปินชาวอเมริกันเข้ามาหลอมรวมกับความประณีตทางกลไกนาฬิกาสวิส จนเกิดเป็นวัตถุที่ตั้งใจให้ผู้พบเห็นได้รู้สึกสงสัยกับมิติเวลา ราวกับเป็นสิ่งประดิษฐ์โบราณที่ถูกค้นพบหลังจากผ่านมาหลายศตวรรษ


วิวัฒนาการของความร่วมมือ
hub1

คลื่นน้ำแผ่กระจายออกจากตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 42 มิลลิเมตร สะท้อนแรงบันดาลใจของน้ำที่เล่าเรื่องผ่านนาฬิกา


หลังจากความสำเร็จของนาฬิกาพก Hublot Arsham Droplet ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ ผลงานล่าสุดนี้ถือเป็นการก้าวเข้าสู่วงการออกแบบนาฬิกาข้อมือครั้งแรกของ Arsham ศิลปินร่วมสมัยชาวอเมริกัน ผู้มีผลงานเด่นที่เน้นแนวคิด “โบราณวัตถุสมมติ” เขาได้นำวิสัยทัศน์อันโดดเด่นมาผสมผสานกับปรัชญา Art of Fusion ของ Hublot จนเกิดเป็นผลงานที่ดูเสมือนวัตถุโบราณ แต่ล้ำสมัยในคราวเดียวกัน


แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากน้ำโดยตรง ขณะที่ผลงานก่อนหน้านี้สำรวจรูปร่างของหยดน้ำ MP-17 ได้นำเรื่องราวของสายน้ำมาขยายต่อผ่านการเปิดหน้าปัดทรงสแปลชที่โดดเด่น การพัฒนานี้สะท้อนถึงการสำรวจอย่างต่อเนื่องของ Arsham ว่ากาลเวลาทิ้งร่องรอยอย่างไร ผ่านเส้นสายโค้งมนและลื่นไหลของตัวเรือน พร้อมกับชิ้นส่วนแซฟไฟร์ใสที่ช่วยเติมมิติทางสายตาที่มองเห็นให้กับงานออกแบบ


การพัฒนานวัตกรรมวัสดุอย่างเหนือชั้น


Picture2

ขอบหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ทรงกล่องแบบด้าน สร้างความโค้งมนเป็นธรรมชาติรอบตัวเรือน ขณะที่สายยางสีดำประดับด้วยอักษรย่อของ Arsham

ขนาดตัวเรือนที่กะทัดรัดเพียง 42 มิลลิเมตร กลับซ่อนความซับซ้อนทางเทคนิคไว้ภายใน การผสานกลไกใหม่ของ Hublot รุ่น MECA-10 แบบไขลานด้วยมือซึ่งมีขนาดเล็กลง ทำให้สามารถออกแบบตัวเรือนให้สวมใส่สบายขึ้น โดยยังคงความโดดเด่นตามที่ผู้ร่วมงานทั้งสองฝ่ายคาดหวัง กลไกนี้สามารถมองเห็นได้ทั้งจากช่องบนหน้าปัดและฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์ กลายเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกทางศิลปะ มากกว่าที่จะเป็นเพียงชิ้นส่วนเชิงฟังก์ชั่น


การเลือกใช้วัสดุสะท้อนถึงทั้งนวัตกรรมและเจตนารมณ์ ขอบหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ทรงกล่องแบบด้าน ผสมผสานกับไทเทเนียมและยาง สร้างความกลมกลืนระหว่างผิวสัมผัสและความโปร่งใส วัสดุเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงกรอบรองรับกลไกเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในความโค้งมนและไหลลื่นแบบออร์แกนิกของผลงาน เหมือนแรงบันดาลใจที่ได้จากการเคลื่อนไหวของสายน้ำ


ทุกรายละเอียดการออกแบบที่มีความหมาย
Picture3

ช่องบนหน้าปัดทรงหยดน้ำเผยให้เห็นกลไกสีเทาที่ผ่านการเคลือบ PVD อยู่ด้านใน ขณะที่รายละเอียดสีเขียวซูเปอร์ลูมิโนว่า อันเป็นเอกลักษณ์ของ Arsham ช่วยเน้นเข็มนาฬิกาและหลักชั่วโมงให้เด่นชัดบนพื้นหน้าปัดที่เคลือบโรเดียมและผ่านการขัดพื้นผิวแบบไมโครบลาสต์


แม้ว่านาฬิกาเรือนนี้ในเบื้องต้นอาจดูเหมือนแตกต่างจากสไตล์ที่คุ้นเคยของ Hublot แต่หากสังเกตอย่างละเอียดจะเผยให้เห็น DNA ของแบรนด์ที่ถูกรวบรวมไว้อย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด สกรู H หกตัวอันเป็นเอกลักษณ์ปรากฏอยู่บนขอบหน้าปัดและฝาหลัง ขณะที่บ่าตัวเรือนที่โดดเด่นในตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกายังคงเอกลักษณ์เชิงโครงสร้างของแบรนด์ ส่วนตัวล็อคสายแบบบานพับรูปตัว H จากไทเทเนียมก็ยังคงสานต่อแนวคิดนี้ไปยังระบบการล็อคและปลดล็อคอย่างสะดวกสบาย


อิทธิพลของ Arsham ปรากฏชัดผ่านรายละเอียดสีเขียวที่โดดเด่นในงานออกแบบ สีนี้ปรากฏบนเข็มชั่วโมงและเข็มนาที ตัวเลข หลักชั่วโมง เข็มวินาทีเล็กในตำแหน่ง 9 นาฬิกา และมาตรพลังงานสำรองในตำแหน่ง 3 นาฬิกา สีเขียวซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของงานออกแบบของ Arsham ช่วยสร้างความกลมกลืนทางสายตา พร้อมทั้งทำให้การอ่านเวลาชัดเจนยิ่งขึ้น


ความเป็นเลิศทางเทคนิคผสานกับวิสัยทัศน์ทางศิลปะ
Picture4

ฝาหลังของ MP-17 เผยให้เห็นกลไกไขลาน HUB1205 ผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมสกรูไทเทเนียมรูปตัว H หกตัวอันเป็นเอกลักษณ์

กลไก HUB1205 ที่บรรจุอยู่ในนาฬิกา สะท้อนถึงความชำนาญทางเทคนิคอันประณีตซึ่งจำเป็นต่อการรังสรรค์งานออกแบบ มอบประสิทธิภาพการสำรองพลังงานได้นาน 240 ชั่วโมง จึงทำให้นาฬิการุ่นนี้กลายเป็นเพื่อนคู่ใจที่เชื่อถือได้ในทุกการเดินทาง การเคลือบ PVD สีเทาของชิ้นส่วนประกอบช่วยเสริมความกลมกลืนทางสายตาที่มองเห็นกับตัวเรือนโดยรวม ขณะที่ชิ้นส่วนทั้ง 264 ชิ้นทำงานประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อรักษาความเที่ยงตรงแม่นยำสูงสุด

สายยางสีดำประดับอักษรย่อ Arsham มอบความรู้สึกสะดวกสบายในการสวมใส่และความต่อเนื่องเชิงศิลปะให้กับเรื่องราวของนาฬิกา ความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ตัวเรือนจนถึงตัวล็อคสาย แสดงให้เห็นถึงแนวคิดแบบองค์รวมที่ทั้งสองฝ่ายนำมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน


ผลงานที่อยู่เหนือกาลเวลา


ในขณะที่โลกแห่งนาฬิกายังคงวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง การร่วมงานกันครั้งนี้ย้ำเตือนให้เห็นว่า นวัตกรรมไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการเพิ่มฟังก์ชั่นที่ซับซ้อนของกลไกหรือการทำให้กลไกบางเฉียบลงเท่านั้น บางครั้งนวัตกรรมที่ลึกซึ้งที่สุดกลับเกิดจากจินตนาการใหม่ๆ ถึงสิ่งที่นาฬิกาสามารถเป็นไปได้ มองเวลาไม่ใช่เพียงสิ่งที่ต้องวัดค่า แต่เป็นสิ่งที่ต้องสัมผัส รู้สึก และตีความหมาย

Hublot MP-17 MECA-10 Arsham Splash Titanium Sapphire ทำสิ่งที่นาฬิกาส่วนใหญ่ไม่อาจทำได้ เปลี่ยนมุมมองต่อเวลา ถ่ายทอดความไหลลื่นของน้ำในรูปแบบของแข็ง และรังสรรค์วัตถุที่ดูทั้งคลาสสิกและล้ำสมัยในคราวเดียวกัน Arsham และ Hublot จึงไม่ได้สร้างเพียงนาฬิกา แต่สร้างบทสื่อสารทางศิลปะกับกาลเวลา

MP-17 คือเครื่องยืนยันถึงความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้นเมื่อความประณีตของช่างนาฬิกาแบบดั้งเดิมผสานกับวิสัยทัศน์ทางศิลปะร่วมสมัย เมื่อความแม่นยำของนาฬิกาสวิสบรรจบกับความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ของศิลปะอเมริกัน ความร่วมมือนี้จึงกลายเป็นบทท้าทายต่อขอบเขตของการสร้างสรรค์ และ Hublot MP-17 MECA-10 Arsham Splash Titanium Sapphire คือผลงานที่สะท้อนจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด

Share the story
1999 - 2025 © The Hour Glass Limited. All Rights Reserved.